Physical Address
1889 KhaoSan Road.
PhraNakorn , BKK 10900
Physical Address
1889 KhaoSan Road.
PhraNakorn , BKK 10900
เมือง ซัปโปโร หรือที่ญี่ปุ่นออกเสียงจริงว่า “ซัป-โปะ-โระ” เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเกาะฮอกไกโดจัดว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของทั้งประเทศ มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 2 ล้านคนหรือเกือบครึ่งนึงของทั้งเกาะ (ประชากรทั้งเกาะราว 5 ล้านคน) ใครที่มา เที่ยวฮอกไกโด ไม่ควรพลาด 🧳 เมืองซับโปโร อย่างเด็ดขาด
ที่เที่ยว ซัปโปโร คือเมืองใหม่ อายุแค่ 100 กว่าปี สร้างขึ้นทีหลังเมืองเก่าที่เป็นเมืองท่าริมทะเลอย่างฮาโกดาเตะ หรือโอตารุ เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นต้องการขยายการตั้งถิ่นฐานของผู้คนบนเกาะฮอกไกโดให้มากขึ้น เป็นการสกัดการขยายอาณาเขตของรัสเซีย ที่มีเกาะซาฮาลินอยู่ทางตอนเหนือห่างจากฮอกไกโดไม่ไกลนัก
ด้วยความที่มีอากาศหนาวเย็นกว่าโตเกียวและภาคกลางของญี่ปุ่นประมาณ 10 องศาทำให้บ้านเรือนที่นี่ออกแบบสไตล์ฝรั่ง ส่วนผัง เมืองซัปโปโร ก็ได้รับการออกแบบอย่างดีตามแนวคิดแบบอเมริกา ที่ญี่ปุ่นเชิญมาเป็นที่ปรึกษาในสารพัดวิทยาการต่างๆ ในยุคนั้น คือมีถนนตัดกันเป็นตารางสี่เหลี่ยม สะดวกต่อการใช้เส้นทางและเป็นระเบียบเรียบร้อย
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งใน ซับโปโร ล้วนเป็นมรดกของยุคอุตสาหกรรมรุ่งเรือง เช่น ตึกอิฐแดงที่ทำการรัฐบาลเก่า โรงเบียร์ซัปโปโรตราดาวแดง หอนาฬิกาประจำเมือง หรือไม่ก็เป็นสิ่งก่อสร้างทันสมัย เช่น ซัปโปโรโดม (Sapporo Dome) ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มขนาดยักษ์ ลานกระโดดสกีที่เคยใช้แข่งโอลิมปิกฤดูหนาว ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่บนยอดตึก
จากสนามบินชิโตเสะ (New Chitose Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองอิโตเสะ ห่างจากตัวเมือง ซับโปโปโร ประมาณ 45 โลเมตร การเดินทางจากสนามบินรถไฟด่วนใช้เวลาเพียง 40 นาที่ นอกจากนี้ยังมีรถบัสหรือแท็กซี่ให้บริการ
⭐️ รถไฟ JR Rapid Airport Line วิ่งไปถึงปลายทางสถานี JR Sapporo แวะจอดที่สถานี JR Minami Chitose, Chitose, Eniwa, Kita-Hiroshima, Shin-Sapporo ซึ่งออกจากสนามบินชิโตเซะ ชั้น B1F ฝั่ง Domestc เที่ยวแรก 06:56 น. คำโดยสาร 1,590 เยน/เที่ยว สามารถใช้ตั๋ว Hokkado Rail Pass ขึ้นได้ฟรี นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถไฟ JR Rapid Airport Line ขบวนที่วิ่งไปถึงปลายทางสถานี Otaru เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม โดยจะแวะจอดที่สถานี JR Sapporo ก่อน
⭐️ รถไฟ JR Chitose Line ใช้เส้นทางเดียวกันกับ JR Rapid Airport Line แต่จอดหลายสถานีเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเหลือเพื่อไม่เร่งรีบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เที่ยวแรก 06:56 น. ค่าโดยสาร 1,070 เยน/เที่ยว
⭐️ Airport Bus มีรถบัสของบริษัท Chuo (สายสีแดง) และบริษัท Hokuto Kotsu (สายสีน้ำเงิน) วิ่งบริการไปยังสถานีรถไฟ JR Sapporo ย่านซูซูกิโนะ สวนโอโดริ รวมถึงโรงแรมใหญ่ ๆ ใน ตัวเมืองซัปโปโร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตั๋วราคา 1,100 เยน/เที่ยว เหมาะสำหรับผู้ที่มีสัมภาระมาก สามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์ผู้ให้บริการแต่ละเจ้า หรือซื้อตั๋วจากเครื่อง อัตโนมัติ บริเวณชั้น 1F ฝั่ง Domestic ขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 22 และ International ขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 65
ข้อมูลเพิ่มเติมการเดินทาง
www.new.chitose-airport.jp/en/access
เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง ซัปโปโร ไว้เพื่อสะดวกต่อการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวไว้กว่า 16 ที่ คัดมาแล้วรับรองถูกใจแน่นอน
ใครชอบแนวประวัติศาสตร์ Trippytips แนะนำเลย อาคารสีแดงเก่าแก่อายุนับร้อยปี สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอบาร็อค (Neo-Baroque) หลังคามีโดม 8 เหลี่ยมตรงกลาง ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐสีแดงจึงมีชื่อเรียกอีกว่า “ตึกอิฐแดง” ในอดีตใช้เป็นที่ทำการรัฐบาล แต่ปัจจุบันปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของเมืองซับโปโรและเกาะฮอกไกโด มีภาพเขียนที่ผนังแสดงสภาพความเป็นอยู่ในยุคนั้นด้วย ส่วนที่ทำการรัฐบาลได้ย้ายไปที่อาคารทรงทันสมัยตั้งอยู่ด้านหลังในบริเวณเดียวกัน
การเดินทาง :
🚋 จากสถานี JR Sapporo ทางออก South เดินราว 500 เมตร หรือรถไฟใต้ดินสถานี Supporo ทางออก 2 เดินไป 100 เมตร
⏰ ด้านในอาคาร 08:45 – 18:00 น. , สวนด้านหน้า 07:00 – 21:00 น.
เป็นศาลเจ้าประจำเกาะฮอกไกโด สร้างในปี ค.ศ.1871 ยุคที่เริ่มการพัฒนาเกาะ (สมัยพระจักรพรรดิเมจิ) ต่อมาได้มีการอัญเชิญเทพให้มาประทับที่ศาลนี้ถึง 4 องค์ รวมทั้งพระวิญญาณขององค์จักรพรรดิเมจิด้วย ตัวอาคารศาลเจ้าเดิมถูกไฟไหม้เสียหายหมดในปี ค.ศ. 1974 ที่เห็นปัจจุบันเป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ทดแทนในปี ค.ศ.1978 นั่นเองพื้นที่ของศาลเจ้ากว้างขวางท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นและต่อเนื่องกับสวนมารุยามะ
ในฤดูใบไม้ผลิจะมีผู้คนมาชมซากุระบานที่ปลูกไว้กว่า 1.200 ต้น ส่วนในฤดูร้อน ทุกวันที่14-16 มิถุนายน ก็จะมีเทศกาล Sapporo Festival (Sapporo Matsur) ซึ่งมีขบวนแห่ศาลเจ้าทั้ง 4 ไปตามถนนในตัวเมืองและมาสิ้นสุดที่ศาลเจ้านี้
การเดินทาง :
🚋 รถไฟใต้ดินลงสถานี Maruyama Koen ทางออก 2 , 3 เดินเข้าประตูสวนด้านตะวันออก ราว 800 เมตร ถ้าเดินอ้อมไปเข้าประตูใหญ่ด้านทิศเหนือ ราว 1 กม.
⏰ 24 ชม.
เป็นอีก 1 ที่ ที่แอดมิน TrippyTips แนะนำเลย สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตเทเนะ (Teine) ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เมืองซัปโปโร สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1982 ใช้เวลา10 ปี จึงแล้วเสร็จภายใต้แนวคิด “Circular Greenbelt Concept” โดยพื้นที่เกินกว่าครึ่งถูกปกคลุมไปด้วยป่าที่มีชื่อเรียกว่า Furusato.Tsudoi และ Yacho สัญลักษณ์ของที่นี่คือแนวคลองที่มีความยาว 600 เมตร กว้าง 15 เมตรโดยมีทิวแถวของต้นปอปลาร์ (Poplar) กว่า240 ต้น ปลูกขนานตามแนวคลองเพิ่มความชุ่มฉ่ำด้วยน้ำตกขนาดใหญ่ให้ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงาม
ภายในสวนยังมีหอสังเกตการณ์ด้านบน มีจุดชมวิวมองเห็นแนวต้นนำสายตาไปยังภูเขาเทเนะ (Teineyama) ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมที่นี่ยังเป็นจุดชมดอกวิสทีเรีย (Wisteria) ทั้งดอกสีขาว และม่วง ห้อยระย้าตามแนวไม้ยาว 320 เมตร สวยงามและหาชมได้ยากมากในซัปโปโร รวมทั้งสวนดอกไม้นานาพรรณที่สับเปลี่ยนให้ชมกันตลอดทั้งปี นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะเปลี่ยนเป็นลานสกีให้ได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมฤดูหนาวอย่างสโนว์บอร์ดและสกีครอสคันทรี (สกีวิบาก)
การเดินทาง :
🚋 จากสถานี JR Teine นั่งรถบัสสาย 47 ลงป้าย Maeda shinrin Koen
⏰ เปิดตลอด
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและมีแม่น้ำ Toyohira ไหลผ่าน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากตัวเมือง ซับโปโร ไปทางใต้ราว 30 กิโลเมตร สามารถขับรถหรือนั่งรถบัสจากสถานีรถไฟซัปโปโรมาได้สะดวก ที่นี่นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องแหล่งออนเซ็นหรือน้ำพุร้อนของเมืองซัปโปโรแล้วยังถือเป็นจำชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ ดังนั้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่พักในหมู่บ้านจะถูกจับจองล่วงหน้าจนเต็ม
การเดินทาง :
🚋 จากสถานีรถไฟ JR Supporo นั่งรถบัสที่ป้ายหมายเลข 12 สาย Kappa Liner ไปลงป้าย Jozankei
ห่างไปทางเหนือของหมู่บ้านโจซันเค Jozankei Onsen ราว 3 กม. มีเขื่อน Jozankei และทางใต้ราว 8 กม. มีเขื่อน Hoheikyo ทั้งสองเขื่อนมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ให้เข้าชมประวัติความเป็นมา และบริเวณรอบ ๆ เป็นจุดชมใบไม้แดงที่สวยงามของโจซังเค ทั้งสองแห่งด้วย
สวนสาธารณะที่มีดอกไม้นานาชนิดซึ่งออกดอกตามฤดูกาล เชื่อว่าคนรักดอกไม้ต้องฟินแน่นอนดอกไม้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทั้งปีแบ่งออกเป็นหลายสวน ไม่ว่าจะเป็นไลแลคไฮเดรนเยีย ลาเวนเดอร์ กุหลาบ รักเร่ (Dahia) และอื่นๆ
ส่วนไฮไลท์จะอยู่ที่สวนดอกลิลลี่หลากหลายสายพันธุ์นอกจากนี้ยังมีโซนสนามเด็กเล่น, สวน 4 สไตล์ (The WorldGardens) ทั้งสวนญี่ปุ่น จีน เยอรมันและพอร์ตแลนด์, หอคอยชมวิว เป็นต้น
การเที่ยวชมสวนสามารถนั่งรถไฟที่เรียกว่า LilyTrain ไปยังจุดต่าง ๆ รอบสวนพร้อมฟังเสียงบรรยายสไตล์ญี่ปุ่น เรียกเสียงฮาได้ทั้งขบวน รถจะออกทุกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลารอบละ 15 นาที
การเดินทาง :
🚋 รถไฟสถานี JR Yurigahara ออกประตูฝั่งตรงข้าม แล้วเดินตรงไปสุดถนน
⏰ 08:45-17:15 น.
เขา Moiwa มีความสูง 531 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง ซัปโปโร จากยอดเขาสามารถชมทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ได้ทั้งเมือง และยังเป็นจุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของฮอกไกโด การขึ้นไปสัมผัสวิวมุมสูงบนยอดเขานั้น ในช่วงแรกจะต้องนั่งรถกระเช้า (Ropeway จากเชิงเขาไปกว่าครึ่งทางเราจะได้เห็นเจดีย์แห่งสันติสุข (Peace Pagoda) ที่สร้างโดยพระสงฆ์นิกาย Nipponzan-Myohoji เมื่อปีค.ศ. 1959 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นายกรัฐมนตรีของอินเดียในยุคนั้นถวายแด่สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น จากนั้นต้องเปลี่ยนมานั่งรถเคเบิ้ลคาร์เล็กที่เรียกว่า Morris Car แต่วิ่งบนรางขึ้นไปยังยอดเขา
บนยอดเขาจะมีทั้งห้องอาหาร The Jewels. หอประชุมและดาดฟ้าชมวิว มีระฆังอธิษฐานความสุขให้กับคนรักได้ นอกจากนี้ยังมีที่ให้คู่รักเอาแม่กุญแจมาคล้องล็อคไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันมั่นคงอีกด้วย
จากยอดเขามองลงมาจะเห็นตัวเมืองซัปโปโร และทิวทัศน์ของที่ราบอิชิการิ (Ishikan) กว้างใหญ่ต่อขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเลือกชมวิวในกลางคืนจะเห็นประกายระยิบระยับของแสงไฟทั่วเมืองซัปโปโร ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกดินโรเมนติกสุด ๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและรักการผจญภัย สามารถเดินขึ้นไปยังยอดเขาซึ่งมี 5 เส้นทาง ระยะทางตั้งแต่ 2.4-4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยแต่ละเส้นผ่านป่าอันอุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้มากกว่า 450 ชนิด ให้ดื่มด่ำกับธรรมชาติแบบใกล้ชิด
การเดินทาง:
🚋 รถรางลงป้าย Ropeway Iriguchi แล้วเดินมาป้ายรถ shuttle bus รับ-ส่งไปสถานีรถกระเช้า หรือจะเดินไปสถานีเองก็ได้ราว 600 เมตร
⏰ เม.ย.-พ.ย. 10:30-22:00 น. , ธ.ค. – มี.ค. 11:00 – 22:00
สวนขนาดใหญ่ที่สุดในซับโปโร แหล่งพักผ่อนและทำกิจกรรมสันทนาการ มีแม่น้ำ Kamokamo (เป็นสาขาของแม่น้ำ Toyohira แม่น้ำสายหลักของเมือง) ไหลผ่าน แต่เดิมพื้นที่สวนนี้ถูกใช้พักซุงที่ล่องมาตามแม่น้ำ ก่อนจะปล่อยให้ไหลต่อไปยังโรงเลื่อยแปรรูปไม้ เมื่อการ พื้นที่นี้ก็ถูกปรับปรุงมาเป็นสวนสาธารณะในปี ค.ศ. 1887
กลางสวนมีสระน้ำ Chobu ขนาดใหญ่ชาวเมืองนิยมมาพายเรือเล่นกัน บริเวณโดยรอบร่มรื่น
ไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย ทั้งต้นสน แปะก๊วย ซากุระ และไม้ดอกแซมเป็นสีสัน ทั้งวิสทีเรีย
กุหลาบ สับเปลี่ยนให้ชมตามฤดูกาล ภายในมีสวนญี่ปุ่นให้ชม อีกทั้งสวนยังเป็นอาคารและพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ให้เราสามารถแวะชมกันได้ด้วย
การเดินทาง:
🚋 รถไฟใต้ดินลงสถานี Nakajima Koen ทางออก 3 หรือรถรางป้าย Nakajima Koen Dori เดินอีกประมาณ 100 เมตร
⏰ 24 ชม.
เรือนไม้ชั้นเดียวขนาดย่อมหลังนี้เป็นสมบัติตกทอดมาจากยุคเมจิอายุเกือบ 140 ปี บรรยากาศจะวังเวง แอบหลอนนิดนึง (ทริปปี้ ทริป แนะนำเลย) ออกแบบโดยการผสมผสานโครงสร้างแบบญี่ปุ่นและตะวันตกเข้ากันได้เป็นอย่างดีด้วยบานกระจกโดยรอบให้ดูโปร่งโล่ง เพื่อใช้เป็นเรือนรับรองเมื่อครั้งที่สมเด็จพระจักรพรรดิมุทสึฮิโตะเสด็จมาประทับที่ ซับโปโร ฮอกไกโด ในปี ค.ศ. 1881 แม้ว่าปัจจุบันบ้านหลังนี้จะไม่ได้ใช้งานดังก่อน แต่ยังคงรูปแบบเดิมไว้
เมื่อเข้ามาด้านในจะเห็นป้ายให้ถอดรองเท้าก่อนเข้าชม ด้านหน้าเป็นห้องโถงสไตล์ตะวันตก และด้านในเป็นห้องไม้สไตล์ญี่ปุ่น สามารถเดินเข้าไปชมพื้นที่ด้านในได้ฟรี
การเดินทาง:
🚋 จากสถานี JR Sapporo เดินราว 700 เมตร อยู่ติดกับมหาวิทยาลัย Hokkaido
⏰ 09:00-16:00 น.
เดิมโรงงานแห่งนี้เคยเป็นของบริษัทน้ำตาล Sapporo Sugar Company แต่เมื่อกิจการน้ำตาลตกต่ำลง จึงชายให้ทาง Sapporo Beer Company ในปี ค.A. 1903 เพื่อปรับปรุงเป็นโรงงานเบียร์แห่งที่สองของเบียร์ซัปโปโรตราดาวแดง (ที่ไม่ใช่ขวดเขียว) หลังย้ายจากที่เดิม (ที่กลายเป็น Sapporo Factory ไป) และใช้ผลิตอยู่จนถึงปี ค.ศ. 1965 ก็ได้เปิดห้องแสดงเกี่ยวกับประวัติและเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตเบียร์ขึ้น และในปี ค.ค. 1987 ก็ได้ปรับปรุงไปเป็นพิพิธภัณฑ์ว่าด้วยเรื่องราวของการทำเบียร์ (Beer Museum) หลังจากย้ายโรงงานไปผลิตที่อื่น
ในปี ค.ศ. 2004 ได้ปรับปรุงใหม่และเปิดให้ชมฟรี สามารถชมโรงงานได้เป็นรอบฯ และ ยังจะได้ลองชิมเบียร์ต่างๆ ของ Sapporo และ Yebisu (เบียร์ดังอีกยี่ห้อของญี่ปุ่น ซึ่งรวมกิจการกับ Sapporo Beer เมื่อร้อยปีก่อน) แบบไม่อั้น ในบริเวณเดียวกันยังเปิดเป็นลานเบียร์และร้านอาหารสไตล์เจงกิสข่าน (เนื้อกระทะ) ให้นั่งกินดื่มสังสรรค์กันได้ด้วย โดยแยกเป็นโซนภัตตาคารและโซน Beer Hall ที่มีทั้งอาหารตามสั่งและบุฟเฟ่ต์แบบ All you can eat รวมเบียร์สารพัดชนิดด้วย ซึ่งต้องไปแต่เนิ่นๆ เพราะอาจมีคิวยาวได้ถึงแม้จะมีที่นั่งมากมายก็ตาม
การเดินทาง:
🚋 จากสถานี JR Sapporo นั่งรถบัสสาย Chuo Bus Factory สาย 88 ลงป้ายหน้าโรงงาน หรือเดินตามถนน Kita 8Jo-dori ราว 1 กม. หรือแท็กซี่ประมาณ 1,000 เยน
⏰ 09:00-17:30 น. (ปิดวันจันทร์) ลานเบียร์ (Beer garden) 11:30-22:00 น. ทัวร์ 11:00-20:00 น.
ที่นี่เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดย่อม ๆ ที่รวมเป็นทั้งช้อปปิ้งมอลล์ ร้านอาหารและศูนย์รวมความบันเทิงในหลากหลายบรรยากาศ ศูนย์รวมร้านค้ากว่า 160 ร้าน จากตัวอาคารเดิมที่เห็นอาคารอิฐแดงอายุกว่า 140 ปีเคยเป็นที่ตั้งโรงงานเก่าของเบียร์ซัปโปโร ซึ่งเป็นที่แรกที่ผลิตเบียร์ออกจำหน่ายในญี่ปุ่น ตัวอาคารของโรงงานและหม้อต้ม ปล่องไฟ ถูกอนุรักษ์ไว้ให้เข้าชม ด้านในมีร้านอาหารสไตล์โรงเบียร์เยอรมันตั้งอยู่ด้วย
นอกจากตัวโรงงานเก่าแล้วยังมีส่วนอาคารอื่นที่ถูกดัดแปลงต่อเติมเป็นศูนย์การค้าทันสมัยโดยเฉพาะอาคารเรือนกระจกหลังคาโค้งที่มี 5 ชั้นประกอบไปด้วยช็อปสินค้าแฟชั่น และร้านอาหารมากมาย ในช่วงคริสต์มาสที่นี่จะตกแต่งบรรยากาศสวยงามมากทีเดียว นอกจากนี้ยังมีอีกอาคารที่อยู่คนละฝั่งถนน ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์ร่วมสมัยและโรงภาพยนตร์อยู่อีกด้วย
การเดินทาง:
🚋 รถไฟใต้ดินลงสถานี Bus Center mae ทางออก 8 แล้วเดินต่อราว 600 เมตร
⏰ 10:00-20:00 น. ร้านอาหาร 11:00-22:00
ย่านกินดื่ม เที่ยวกลางคืน ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของญี่ปุ่น มีชื่อว่า “ซูซูกิโนะ” ที่นี่มีร้านอาหารและแหล่งบันเทิงอยู่ร่วมกันตามชั้นต่างๆ ของหลายอาคารมากกว่า 4,000 ร้าน! รวมถึงร้านบุฟเฟ่ต์ขาปูและเนื้อย่างเจงกิสข่านชื่อดังก็ตั้งอยู่ย่านนี้เช่นกัน สังเกตได้ง่ายว่าไฟโฆษณาและป้ายต่างๆ จะยังสว่างไสว แม้จะใกล้เที่ยงคืนก็ตาม ถึงเปิดดึกแต่ย่านนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร บรรดาคลับบาร์ต่างๆ ส่วนหนึ่งจะอยู่ชั้นบน ๆ ของอาคาร ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถหาร้านอาหารทานหรือจะเดินเล่นชมแสงสีต่างๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล
การเดินทาง:
🚋 รถไฟใต้ดินสาย Namboku สถานี Susukino ทางออก 2. 3, 5 หรือรถรางสถานี Susukino
ถนนช้อปปิ้งที่มีความยาวราว 1 กิโลเมตรแห่งนี้เป็นย่านเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งใน Supporo ฮอกไกโด มีอายุกว่า 140 ปี สองฝั่งทางในช่วง 7 บล็อกถนนมีร้านค้ามากกว่า 200 ร้าน ตั้งแต่บล็อกที่ 1 ฝั่งด้านตะวันออกที่อยู่ติดแม่น้ำ Soseiใกล้ตลาดปลา Nio Fish Market ไปจนถึงบล็อกที่ 7
ตลอดสองข้างทางมีทั้งร้านขายของฝาก ของที่ระลึก ขนมหวาน ของเล่น ร้านเกม เสื้อผ้าและของใช้มือสองร้านรองเท้า ร้านอาหารหลากหลายประเภท รวมถึงอาหารไทย และข้าวของสารพัดในราคาที่ถูกใจสบายกระเป๋า ที่นี่มีหลังคาคลุมสามารถเดินได้ทั้งปีแบบไม่ต้องกลัวแดด ฝน หรือหิมะ และในฤดูร้อนของทุกปี (กรกฎาคม-สิงหาคม) ยังใช้เป็นสถานที่จัดเทศกาล Tanuki ซึ่งจะมีการตกแต่งประดับประดาย่านนี้อย่างสวยงาม
การเดินทาง:
🚋 รถไฟใต้ดินสาย Namboku สถานี Susukino ทางออก 1 แล้วเดินตรงไปอีก
⏰ 24 ชั่วโมง
เป็นโรงงานผลิตช็อกโกแลตสารพัดแบบในห่อและกล่องสีสวยเย้ายวนใจ บริษัทชื่ออิชิยะ (shiya) ได้ทำช็อกโกแลตยี่ห้อ “ชิโรอิ โคอิบิโตะ” (Shiroi Koibito) ออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1980 และเพื่อเป็นการโฆษณาพร้อมทั้งรองรับผู้เข้าเยี่ยมชมโรงงาน จึงมีการจัดสร้างสวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปมากมาย ทั้งหอนาฬิกา หอค่อยขนมเค้ก บ้านรังนก รถไฟเล็ก ฯลฯ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอนาฬิกา ซึ่งจะมีขบวนพาเหรดกลไกเปิดออกมาแสดงเป็นช่วง ๆ ตามเวลาที่กำหนด สวนนี้อยู่ภายในบริเวณโรงงาน ผู้เยี่ยมชมสามารถซื้อขนมและเครื่องดื่มมานั่งทานได้ มีร้านขนาดใหญ่ให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์และขนมหวานจากช็อกโกแลตในรูปแบบต่างๆ
สำหรับผู้ที่อยากเข้าชมภายในโรงงาน ก็มีบริการทัวร์ให้เข้าชมเป็นรอบๆ ซึ่งจะได้เห็นกระบวนการผลิตช็อกโกแลตตั้งแต่ต้นจนบรรจุห่อออกมาเป็นสินค้าขายได้ ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นของสะสม หุ่นจำลองจากภาพยนตร์และการ์ตูนต่าง ๆ มากมาย ชนิดที่ดูกันเพลินได้เป็นชั่วโมงทีเดียว เรียกว่าใครมาถึง ซัปโปโร แล้วไม่ควรพลาดที่นี่
การเดินทาง:
🚋 รถไฟใต้ดินลงสถานี Miyanosawa ทางออก 2 แล้วเดินต่อราว 700 เมตร
⏰ 09:00-18:00 น.
หอนาฬิกานี้เป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งแสดงถึงการพัฒนาเกาะฮอกไกโด และได้รับการประกาศให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมความเป็นมาของหอนาฬิกานี้และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ของฮอกไกโด และยังมีรูปปั้นศจ. Wiliam S. Clark ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยฯ นั่งในท่าทางสบาย ๆ ด้านในอาคารด้วย
การเดินทาง:
🚋 รถไฟใต้ดินลงสถานี Odori ทางออก 31 แล้วเดินต่ออีก 200 เมตร
⏰ 08:45-17:10 น.
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของ เมืองซัปโปโร ตั้งอยู่ปลายสวนโอโดริด้านทิศตะวันออก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1957 สูง 147.2 เมตร โดยจำลองแบบมาจากหอคอยโตเกียว (Tokyo Tower) ทำหน้าที่เป็นหอส่งสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ในยุคอนาล็อกที่ใช้กันมาหลายสิบปี ด้านบนเป็นห้องชมวิว (Ob-servation Deck) อยู่ที่ความสูง 90 เมตร สามารถมองเห็นสวนโอโดริ และทิวทัศน์ของ เมืองซัปโปโร นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ตั้งอยู่ระดับความสูง 23 เมตร สามารถลิ้มรสอาหารพร้อมชมวิวสวนโอโดริ
การเดินทาง:
🚋 รถไฟใต้ดินสถานี Odori ทางออก South 27
⏰ 09:00-22:00 น.
เป็นไงกันบ้างกับ 🚀 16 ที่เที่ยว ซัปโปโร ที่ ทริปปี้ ทิป เอามาฝาก หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ลองไปเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสนุกสนาน มีอะไรสอบถามก็คอมเม้นทิ้งไว้เลย เดี๋ยวแอดมินโอ๋มาตอบนะ
สวัสดีค๊าบบ ชื่อกุล , หลังจากที่จบการศึกษาในสาขารัฐศาสตร์ เราก็พบว่าความหลงใหลในการถ่ายรูป การท่องเที่ยว และการทำอาหาร นั้นมีพลังที่ดึงดูดเราอย่างไม่อาจต้านทานได้ เป็นเหมือนเส้นทางที่ดึงเราเข้าสู่โลกใหม่ที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยสีสัน ที่นี่ TrippyTips, ทุกความคิดเห็นและแนะนำจะเป็นการผสมผสานของความรักในการเดินทางและความเชี่ยวชาญในการทำอาหาร ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้น้าา..